พระราชบัญญัติงาช้าง พ.ศ. ๒๕๕๘
เพื่อให้เป็นไปตามกฏหมายดังกล่าว สมาชิกทุกท่านต้องอ่านทำความเข้าใจและปฏิบัติตามอย่างเคร่งคัด
เข้าสู่ระบบ
หน้าแรก
เก้าสิบเก้าวัด
ร้านพระเครื่อง
กระดานสนทนา
สมัครสมาชิก
ติดต่อทีมงาน
ค้นหาข้อมูล
เข้าสู่ระบบ
เหรียญรุ่นแรก ห...
เหรียญรุ่นแรก หลวงปู่แจ้ง วัดประดู่ บล็อคนิยม จ.สมุทรสงคราม
เหรียญรุ่นแรก หลวงพ่อแจ้ง เนื้อทองผสม กะไหล่ทอง วัดประดู่ อัมพวา สมุทรสงคราม “ วัดประดู่ ” นั้นเป็นวัดโบราณ ไม่มีผู้ใดรู้ถึงประวัติที่แท้จริง ชาวบ้านในแถบนั้นสันนิษฐานว่าคงสร้างในราวปลายกรุงศรีอยุธยา ประมาณ พ.ศ.2320 จากการค้นคว้าทางวิชาการก็พอจะถือได้ว่า “ วัดประดู่ ” นี้เป็นวัดที่เก่าแก่วัดหนึ่งในย่านจังหวัดสมุทรสงคราม ตามประวัติวัดประดู่ อดีตเจ้าอาวาสที่ดำรงตำแหน่งอยู่ในสมัยที่พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว เสด็จประพาสต้นมาที่วัดก็คือ “ หลวงปู่แจ้ง ” ซึ่งเป็นเจ้าอาวาสรูปที่ 4 มีผู้รู้ได้บันทึกเหตุการณ์ครั้งนั้นไว้ว่า... รัชกาลที่ 5 แห่งกรุงรัตนโกสินทร์พระองค์ท่านได้เสด็จประพาสต้นทางน้ำเมื่อวันที่ 21 กรกฎาคม พ.ศ.2447 โดยเรือพระที่นั่งผ่านคลองหน้าวัดประดู่ และได้แวะทำครัวเสวยพระกระยาหารเช้าเสด็จพระองค์ทรงนึกแปลกใจว่า เพราะเหตุใดชาวบ้านจึงได้มาชุมนุมกัน ณ ที่ศาลาท่าน้ำกันมาก จึงตรัสให้กรมพระยาดำรงราชานุภาพไปสอบถามพวกชาวบ้านที่มาชุมนุมกันจึงได้ความว่า “ หลวงปู่แจ้ง ” เจ้าอาวาสวัดประดู่แห่งนี้ท่านเป็นพระที่มีวิชาอาคมสามารถรักษาโรคภัยไข้เจ็บได้ และที่เลื่องชื่อที่สุดก็คือน้ำมนต์ศักดิ์สิทธิ์ บุคคลใดที่โดนผีเข้าหรือโดนคุณไสยถ้าได้มาเจอน้ำมนต์ของหลวงปู่แจ้งแล้วจะได้ผลทุกรายไป ผีตัวใดก็ไม่อาจทนอยู่ได้ ส่วนยาศักดิ์สิทธิ์นั้นก็เช่นกัน ทำขึ้นจากใบมะกาใช้คู่กับน้ำมนต์ เมื่อพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวทรงทราบความจากกรมพระยาดำรงราชานุภาพแล้วท่านก็ทรงเสด็จออกจากวัดประดู่ จากนั้นมาไม่นาน “ หลวงปู่แจ้ง ” ก็ได้รับนิมนต์เข้าไปในพระราชวังเพื่อรักษา “ พระเจ้าน้องยาเธอกรมหมื่นภูธเรศดำรงค์ศักดิ์ ” เมื่อ “ หลวงปู่แจ้ง ” ถวายการรักษาเสร็จจนมีพระอาการดีขึ้น ทำให้พระองค์ทรงเลื่อมใสในความสามารถของหลวงปู่ ก่อนที่หลวงปู่จะลากลับจึงทรงพระราชทานเครื่องอัฏฐบริขาร เตียงบรรทม เก๋งเรือ ปิ่นโต ฯลฯ ให้เป็นที่ระลึก การที่องค์พระพุทธเจ้าหลวง รัชกาลที่ 5 ทรงเสด็จมายังวัดประดู่ตามประวัติศาสตร์นั้นพระองค์ได้ทรงถวายเครื่องราชศรัทธาที่น่าสนใจไว้แก่วัดอีกหลายชิ้นด้วยกัน ทางวัดประดู่จึงได้รวบรวมสิ่งของที่ได้พระราชทานเหล่านั้นจัดทำเป็น “ พิพิธภัณฑ์เครื่องราชศรัทธา รัชกาลที่ 5 ” ขึ้นเพื่อเก็บดูแลรักษาสิ่งของเหล่านี้ให้ทรงคุณค่าอยู่ตราบนานเท่านาน และเพื่อให้คนรุ่นลูกรุ่นหลานได้ชม ได้ศึกษา รวมถึงร่วมกันอนุรักษ์ให้คงอยู่กับชาว “ วัดประดู่ ” ตลอดไป ตามประวัติว่า หลวงปู่ยิ้ม วัดหนองบัว ได้ เรียนทางแพทย์แผนโบราณ มีดหมอปราบภูติผีปีศาจ ทางมหาประสาน เชือกคาดชื่อตะขาบไฟหรือไส้หนุมาน มาจากหลวงพ่อแจ้ง วัดประดู่ นี่เอง หลวงปู่แจ้งท่านรักษาคนด้วยตัวยาสมุนไพรเพียงไม่กี่ชนิดคือใบมะกากับข่าพร้อมคาถาเสก ถ้าคนที่มารักษายังไม่หมดอายุท่านจะรับรักษาและต้มยาให้กินแล้วโรคก็จะหายนอกเสียจากท่านตรวจดูแล้วรู้ว่าคนๆ นั้นหมดอายุท่านก็จะไม่รักษาให้และนอกจากยาใบมะกากับข่าเสกแล้ว สิ่งที่ขึ้นชื่อเมื่อเอ่ยถึงหลวงปู่แจ้งอีกอย่างหนึ่งก็คือ “ น้ำมนต์ศักดิ์สิทธิ์ ” น้ำมนต์หลวงปู่แจ้งเล่ากันว่าเมื่อรดใครแล้วหายจากโรคทุกคน ไม่ว่าจะถูกคุณไสย ลมเพลมพัด เป็นบ้าเสียสติมาอย่างไร เมื่อมารดน้ำมนต์ที่วัดประดู่กลับไปแล้วหายทุกคนเรียกว่ามีความขลังและศักดิ์สิทธิ์มาก ผู้ที่เก็บข้อมูลเกี่ยวกับหลวงปู่แจ้งไว้มากที่สุดคือ “ ปู่ใหญ่ ยังมีสุข ” (ปัจจุบันเสียชีวิตแล้ว) ท่านเคยเล่าเรื่องหลวงปู่แจ้งให้ใครหลายๆ คนฟังว่า ศาลารดน้ำมนต์ของหลวงปู่แจ้งมีขี้ตะไคร่จับมาก เวลาเดินต้องระวังลื่นหกล้มเพราะวันๆ มีคนมาให้หลงงปู่รดน้ำมนต์เป็นจำนวนมาก ปัจจุบันกระถางรดน้ำมนต์ของหลวงปู่ก็ยังอยู่และได้ใส่น้ำมนต์ให้ญาติโยมได้นำไปดื่มกินเพื่อเป็นสิริมงคล ตามคำบอกเล่าของผู้ที่นำน้ำมนต์ในอ่างเดิมของท่านไปใช้ต่างบอกว่า อาคมความศักดิ์สิทธิ์ของท่านที่ทำไว้กับกระถางน้ำมนต์ปลุกเสกยังคงเหมือนเดิม เปรียบกับพระเครื่องของพระคณาจารย์ต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นพระผงสมเด็จหรือเหรียญของหลวงพ่อแต่ละองค์ บางองค์ท่านล่วงลับดับขันธุ์ไปแล้วแต่พุทธคุณในวัตถุมงคลของท่านยังคงอยู่ ฉะนั้นน้ำมนต์ที่อยู่ในกระถางน้ำมนต์เดิมของหลวงปู่แจ้งจึงได้ศักดิ์สิทธิ์ มีญาติโยมนำไปประพรมเพื่อค้าขาย ต่างก็บอกเป็นเสียงเดียวกันว่าค้าขายดีผิดกับแต่ก่อน บางคนมือเจ็บ เท้าเจ็บ ปวดขานานเป็นแรมปี นำน้ำมนต์ของหลวงปู่ไปอาบกินก็หายเป็นปลิดทิ้ง ข้อมูลจากปู่ใหญ่เกี่ยวกับหลวงปู่แจ้งยังมีอีกว่า สมัยก่อนครั้งที่หลวงปู่ยังมีชีวิตอยู่นั้นหลวงปู่มีเพื่อนสหธรรมิกที่สนิทใกล้ๆ กัน 3 องค์คือ หลวงปู่นวม วัดแจ้งเจริญ หลวงปู่นวมองค์นี้ท่านเป็นที่นับถือของชาวกระเหรี่ยง เรียกว่าเป็น “เทพเจ้าของชาวกระเหรี่ยง ปีหนึ่งๆ ชาวกระเหรี่ยงจะพากันมานมัสการกราบไหว้ปิดทองหลวงปู่นวมนับเป็นพันๆ หลายพันคน ชาวกระเหรี่ยงที่อยู่ตามเทือกเขาตะนาวศรีนับแต่กาญจนบุรี จนถึงประจวบคีรีขันธ์ชุมพรจะมากันหมด อีกองค์หนึ่งคือหลวงปู่คง วัดศรัทธาราษฎร์ จังหวัดราชบุรี ซึ่งเป็นอาจารย์ของหลวงปู่คง วัดบางกะพ้อม ยอดพระเกจิของ จังหวัดสมุทรสงคราม หลวงปู่ทั้ง 3 องค์นี้มักไปมาหาสู่กันเป็นประจำ บางทีเจอปัญหาหนักท่านก็ช่วยกันแก้ไข พระคุณเจ้าเมื่อสมัยก่อนเมื่อพบกันจะถามภูมิธรรมภูมิสมาธิและทดลองวิชาความขลังกันอยู่เสมอ พระสมัยเก่าแม้ไม่โด่งดังแต่ก็มีความศักดิ์สิทธิ์เกือบเท่าๆ กัน หลวงปู่ทั้ง 3 องค์นี้ก็เหมือนกัน มีอยู่คราวหนึ่งหลวงปู่แจ้งท่านได้ข้ามไปเยี่ยมหลวงปู่นวมที่วัดแจ้งเจริญ ท่านทั้งสองได้นั่งสนทนาปัญหาธรรมและภูมิสมาธิ ก็มีชายคนหนึ่งแบกปืนผ่านศาลาที่ท่านทั้งสองนั่งอยู่ หลวงปู่นวมท่านก็ร้องว่า “จะมายิงนกในวัดฉันรึ” ชายคนถือปืนก็นั่งลงพร้อมทั้งกราบท่านทั้งสองแล้วบอกว่าไม่ได้ พูดเสร็จท่านก็เดินไปที่ต้นไม้ ยืนภาวนาอยู่สักครู่ท่านจึงเดินกลับมาที่ศาลาตามเดิมพร้อมทั้งสั่งให้คนที่ถือปืนยิงไปที่ต้นไม้ต้นนั้น ชาวบ้านผู้นั้นเมื่อหลวงปู่สั่งให้ยิงก็ยิงเลย สมัยก่อนเป็นปืนลูกซองต้องขึ้นลำก่อน พอยิงออกไปสับเท่าไรก็ยิงไม่ออก หลวงปู่แจ้งท่านพูดขึ้นว่า “ ต้องเดินออกไปให้เสียเวลาทำไม เอ้า...ลองยิงต้นไม้ของฉันบ้าง ” ท่านก็ชี้ไปที่ต้นสนพร้อมทั้งเพ่งกระแสจิตไป ชาวบ้านผู้นั้นก็หันกระบอกปืนไปที่ต้นนั้นพร้อมกับลั่นกระสุนก็ยิงไม่ออกเช่นกัน หลวงปู่นวมหัวเราะชอบใจพูดว่า “ เขาก็แน่ดีเหมือนกันโว้ย ” อีกคราวหนึ่งพระท่านไปสวดอภิธรรมหมดวัด เหลือท่านอยู่กับลูกศิษย์ ท่านจึงให้ลูกศิษย์นำผ้าอาบน้ำฝนมาและสั่งให้ช่วยกันฉีก ใครมีแรงมากเท่าใดก็ให้ดึงฉีกออก เด็กวัดต่างคนต่างดึง ต่างคนต่างฉีกเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อย หลวงปู่ก็ให้นำมากองรวมกันให้ดู ท่านก็หยิบมาวางในมือบริกรรมพระคาถาเป่าไปที่กองเศษผ้านั้น สักครู่หนึ่งท่านก็หยิบผ้าขึ้นสะบัดผ้านั้นก็ติดกลับเป็นผืนเดียวกันดังเดิมอย่างมหัศจรรย์ หลวงปู่ท่านก็ให้ลูกศิษย์ดึงผ้าเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อยใหม่ปรากฏว่าดึงเท่าไรก็ดึงไม่ออก จนเหนื่อยแรงต้องยอมแพ้ท่าน กับอีกครั้งหนึ่งหลวงปู่แจ้งท่านมีกิจถูกนิมนต์ไปทางเรือ ท่านก็ให้ลูกศิษย์พายหัวพายท้าย หลวงปู่ท่านได้ทำตะบันหมากตกน้ำซึ่งที่ตรงนั้นเป็นแม่น้ำใหญ่ ท่านไม่ยอมให้ลูกศิษย์ลงงมเพราะเกรงจะเป็นอันตราย แต่ท่านได้เอาปูนแดงคาดไว้ตรงกับที่ตะบันหมากตก ซึ่งที่ตรงนั้นเป็นแม่น้ำใหญ่ พอกลับถึงวัดตรงท่าน้ำหน้าวัด ท่านจึงค่อยสั่งให้ลูกศิษย์โดดลงงม หลวงปู่บอกว่ามันตกตรงนี้ แล้วท่านก็ชี้ลงตรงที่ท่านคาดปูนไว้ ผลปรากฏว่างมได้ตะบันหมากจริงๆ นับว่าวิชาของท่านขลังและศักดิสิทธิ์มาก หลวงปู่แจ้งท่านเคยได้รับอาราธนาเข้าไปในวังอยู่ครั้งหนึ่ง เล่าว่าท่านได้เดินเงอะๆงะๆ เข้าไปถึงที่ประตูวัง ประกอบกับท่านคงห่มจีวรเก่าๆ ทำให้ทหารยามที่ยืนเฝ้าปากประตูไม่ยอมให้ท่านเข้า ท่านก็บอกว่าในหลวงนิมนต์มาท่านจะเข้าไปสวดมนต์ ท่านว่าในหลวงนิมนต์ฉันมาฉันจะเข้าไปสวดมนต์ ดูสิฉันยังเตรียมพัดมาด้วยเลย พร้อมทั้งเปิดพัดให้ดูทหารยามถึงกับตกตะลึง เพราะตาลปัตรที่หลวงปู่ถือไม่ใช่พัดธรรมดา เป็นตาลปัตรมีตราประจำพระองค์ (พัดปักดิ้นทองตราพระนารายณ์ทรงครุฑ) ทหารยามคนนั้นจึงต้องรีบนำหลวงปู่ไปส่งถึงด้านใน เมื่อไปถึงหลวงปู่ท่านนึกว่าท่านเป็นพระผู้น้อย ท่านจึงขึ้นนั่งบนอาสนะหลังสุด ประกอบกับท่านไปถึงก่อนสังฆการีเห็นเข้าก็กราบบังคมทูลสมเด็จพระพุทธเจ้าหลวงว่าหลวงพ่อวัดประดู่มาแล้ว พระองค์ก็ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯให้หลวงปู่ขึ้นไปนั่งอันดับสองรองจากสมเด็จพระสังฆราช แต่นั่งหน้าสมเด็จพระราชาคณะระดับท่านเจ้าคุณหลายรูปด้วยกัน หลวงพ่อแจ้งท่านเป็นเจ้าอาวาส องค์ที่ 4 มรณภาพประมาณปี 2465-2472
ผู้เข้าชม
3158 ครั้ง
ราคา
โชว์
สถานะ
ยังอยู่
โดย
watcell
ชื่อร้าน
ยังไม่เปิดร้านค้า
ร้านค้า
-
โทรศัพท์
0990871177
ไอดีไลน์
0831977807 (ค้นหาจากหมายเลขโทรศัพท์)
บัญชีธนาคารยืนยันตัวตน
1. ธนาคารกสิกรไทย / 865-2-10856-4
เหรียญหลวงปู่สุข สุขเตโม วัดป่
รูปหล่อหลวงพ่อโปร่ง รุ่นแรกวัด
เสืออาคมรุ่นเงินไหล หลวงพ่อโป
พระรูปเหมือนปั้มหลังจาร ชุดกรร
เหรียญทองคำ ท่านพระครูอรุณกิจโ
เหรียญเลื่อนสมณศักดิ์ พระมงคลธ
เหรียญหล่อโบราณ หลวงพ่อเมียน
เหรียญสมาชิกศิษย์วัยรุ่น ย้อนย
เหรียญหล่อโบราณ หลวงพ่อเมียน ก
เก้าสิบเก้าวัด
ร้านพระเครื่อง
กระดานสนทนา
ลงพระฟรี
สมัครสมาชิก
ติดต่อทีมงาน
ลืมรหัสผ่าน
ผู้เข้าใช้งานล่าสุด
Pumnee
เจริญ amulet
stp253
ชยันโต
ณัฐ อัมพวา
natthanet
เจริญสุข
jocho
เทพจิระ
เปียโน
ปลั๊ก ปทุมธานี
Beerchang พระเครื่อง
โกหมู
Kshop
บ้านพระสมเด็จ
บ้านพระหลักร้อย
ไอซ์ชัยนาท
trairat
kuakran
ep8600
TotoTato
Johnny amulet
NongBoss
ฅนปีขาล
hra7215
nueng
Zomlazzali
fuchoo18
patcharee88
someman
ผู้เข้าชมขณะนี้ 1594 คน
เพิ่มข้อมูล
เหรียญรุ่นแรก หลวงปู่แจ้ง วัดประดู่ บล็อคนิยม จ.สมุทรสงคราม
ส่งข้อความ
ชื่อพระเครื่อง
เหรียญรุ่นแรก หลวงปู่แจ้ง วัดประดู่ บล็อคนิยม จ.สมุทรสงคราม
รายละเอียด
เหรียญรุ่นแรก หลวงพ่อแจ้ง เนื้อทองผสม กะไหล่ทอง วัดประดู่ อัมพวา สมุทรสงคราม “ วัดประดู่ ” นั้นเป็นวัดโบราณ ไม่มีผู้ใดรู้ถึงประวัติที่แท้จริง ชาวบ้านในแถบนั้นสันนิษฐานว่าคงสร้างในราวปลายกรุงศรีอยุธยา ประมาณ พ.ศ.2320 จากการค้นคว้าทางวิชาการก็พอจะถือได้ว่า “ วัดประดู่ ” นี้เป็นวัดที่เก่าแก่วัดหนึ่งในย่านจังหวัดสมุทรสงคราม ตามประวัติวัดประดู่ อดีตเจ้าอาวาสที่ดำรงตำแหน่งอยู่ในสมัยที่พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว เสด็จประพาสต้นมาที่วัดก็คือ “ หลวงปู่แจ้ง ” ซึ่งเป็นเจ้าอาวาสรูปที่ 4 มีผู้รู้ได้บันทึกเหตุการณ์ครั้งนั้นไว้ว่า... รัชกาลที่ 5 แห่งกรุงรัตนโกสินทร์พระองค์ท่านได้เสด็จประพาสต้นทางน้ำเมื่อวันที่ 21 กรกฎาคม พ.ศ.2447 โดยเรือพระที่นั่งผ่านคลองหน้าวัดประดู่ และได้แวะทำครัวเสวยพระกระยาหารเช้าเสด็จพระองค์ทรงนึกแปลกใจว่า เพราะเหตุใดชาวบ้านจึงได้มาชุมนุมกัน ณ ที่ศาลาท่าน้ำกันมาก จึงตรัสให้กรมพระยาดำรงราชานุภาพไปสอบถามพวกชาวบ้านที่มาชุมนุมกันจึงได้ความว่า “ หลวงปู่แจ้ง ” เจ้าอาวาสวัดประดู่แห่งนี้ท่านเป็นพระที่มีวิชาอาคมสามารถรักษาโรคภัยไข้เจ็บได้ และที่เลื่องชื่อที่สุดก็คือน้ำมนต์ศักดิ์สิทธิ์ บุคคลใดที่โดนผีเข้าหรือโดนคุณไสยถ้าได้มาเจอน้ำมนต์ของหลวงปู่แจ้งแล้วจะได้ผลทุกรายไป ผีตัวใดก็ไม่อาจทนอยู่ได้ ส่วนยาศักดิ์สิทธิ์นั้นก็เช่นกัน ทำขึ้นจากใบมะกาใช้คู่กับน้ำมนต์ เมื่อพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวทรงทราบความจากกรมพระยาดำรงราชานุภาพแล้วท่านก็ทรงเสด็จออกจากวัดประดู่ จากนั้นมาไม่นาน “ หลวงปู่แจ้ง ” ก็ได้รับนิมนต์เข้าไปในพระราชวังเพื่อรักษา “ พระเจ้าน้องยาเธอกรมหมื่นภูธเรศดำรงค์ศักดิ์ ” เมื่อ “ หลวงปู่แจ้ง ” ถวายการรักษาเสร็จจนมีพระอาการดีขึ้น ทำให้พระองค์ทรงเลื่อมใสในความสามารถของหลวงปู่ ก่อนที่หลวงปู่จะลากลับจึงทรงพระราชทานเครื่องอัฏฐบริขาร เตียงบรรทม เก๋งเรือ ปิ่นโต ฯลฯ ให้เป็นที่ระลึก การที่องค์พระพุทธเจ้าหลวง รัชกาลที่ 5 ทรงเสด็จมายังวัดประดู่ตามประวัติศาสตร์นั้นพระองค์ได้ทรงถวายเครื่องราชศรัทธาที่น่าสนใจไว้แก่วัดอีกหลายชิ้นด้วยกัน ทางวัดประดู่จึงได้รวบรวมสิ่งของที่ได้พระราชทานเหล่านั้นจัดทำเป็น “ พิพิธภัณฑ์เครื่องราชศรัทธา รัชกาลที่ 5 ” ขึ้นเพื่อเก็บดูแลรักษาสิ่งของเหล่านี้ให้ทรงคุณค่าอยู่ตราบนานเท่านาน และเพื่อให้คนรุ่นลูกรุ่นหลานได้ชม ได้ศึกษา รวมถึงร่วมกันอนุรักษ์ให้คงอยู่กับชาว “ วัดประดู่ ” ตลอดไป ตามประวัติว่า หลวงปู่ยิ้ม วัดหนองบัว ได้ เรียนทางแพทย์แผนโบราณ มีดหมอปราบภูติผีปีศาจ ทางมหาประสาน เชือกคาดชื่อตะขาบไฟหรือไส้หนุมาน มาจากหลวงพ่อแจ้ง วัดประดู่ นี่เอง หลวงปู่แจ้งท่านรักษาคนด้วยตัวยาสมุนไพรเพียงไม่กี่ชนิดคือใบมะกากับข่าพร้อมคาถาเสก ถ้าคนที่มารักษายังไม่หมดอายุท่านจะรับรักษาและต้มยาให้กินแล้วโรคก็จะหายนอกเสียจากท่านตรวจดูแล้วรู้ว่าคนๆ นั้นหมดอายุท่านก็จะไม่รักษาให้และนอกจากยาใบมะกากับข่าเสกแล้ว สิ่งที่ขึ้นชื่อเมื่อเอ่ยถึงหลวงปู่แจ้งอีกอย่างหนึ่งก็คือ “ น้ำมนต์ศักดิ์สิทธิ์ ” น้ำมนต์หลวงปู่แจ้งเล่ากันว่าเมื่อรดใครแล้วหายจากโรคทุกคน ไม่ว่าจะถูกคุณไสย ลมเพลมพัด เป็นบ้าเสียสติมาอย่างไร เมื่อมารดน้ำมนต์ที่วัดประดู่กลับไปแล้วหายทุกคนเรียกว่ามีความขลังและศักดิ์สิทธิ์มาก ผู้ที่เก็บข้อมูลเกี่ยวกับหลวงปู่แจ้งไว้มากที่สุดคือ “ ปู่ใหญ่ ยังมีสุข ” (ปัจจุบันเสียชีวิตแล้ว) ท่านเคยเล่าเรื่องหลวงปู่แจ้งให้ใครหลายๆ คนฟังว่า ศาลารดน้ำมนต์ของหลวงปู่แจ้งมีขี้ตะไคร่จับมาก เวลาเดินต้องระวังลื่นหกล้มเพราะวันๆ มีคนมาให้หลงงปู่รดน้ำมนต์เป็นจำนวนมาก ปัจจุบันกระถางรดน้ำมนต์ของหลวงปู่ก็ยังอยู่และได้ใส่น้ำมนต์ให้ญาติโยมได้นำไปดื่มกินเพื่อเป็นสิริมงคล ตามคำบอกเล่าของผู้ที่นำน้ำมนต์ในอ่างเดิมของท่านไปใช้ต่างบอกว่า อาคมความศักดิ์สิทธิ์ของท่านที่ทำไว้กับกระถางน้ำมนต์ปลุกเสกยังคงเหมือนเดิม เปรียบกับพระเครื่องของพระคณาจารย์ต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นพระผงสมเด็จหรือเหรียญของหลวงพ่อแต่ละองค์ บางองค์ท่านล่วงลับดับขันธุ์ไปแล้วแต่พุทธคุณในวัตถุมงคลของท่านยังคงอยู่ ฉะนั้นน้ำมนต์ที่อยู่ในกระถางน้ำมนต์เดิมของหลวงปู่แจ้งจึงได้ศักดิ์สิทธิ์ มีญาติโยมนำไปประพรมเพื่อค้าขาย ต่างก็บอกเป็นเสียงเดียวกันว่าค้าขายดีผิดกับแต่ก่อน บางคนมือเจ็บ เท้าเจ็บ ปวดขานานเป็นแรมปี นำน้ำมนต์ของหลวงปู่ไปอาบกินก็หายเป็นปลิดทิ้ง ข้อมูลจากปู่ใหญ่เกี่ยวกับหลวงปู่แจ้งยังมีอีกว่า สมัยก่อนครั้งที่หลวงปู่ยังมีชีวิตอยู่นั้นหลวงปู่มีเพื่อนสหธรรมิกที่สนิทใกล้ๆ กัน 3 องค์คือ หลวงปู่นวม วัดแจ้งเจริญ หลวงปู่นวมองค์นี้ท่านเป็นที่นับถือของชาวกระเหรี่ยง เรียกว่าเป็น “เทพเจ้าของชาวกระเหรี่ยง ปีหนึ่งๆ ชาวกระเหรี่ยงจะพากันมานมัสการกราบไหว้ปิดทองหลวงปู่นวมนับเป็นพันๆ หลายพันคน ชาวกระเหรี่ยงที่อยู่ตามเทือกเขาตะนาวศรีนับแต่กาญจนบุรี จนถึงประจวบคีรีขันธ์ชุมพรจะมากันหมด อีกองค์หนึ่งคือหลวงปู่คง วัดศรัทธาราษฎร์ จังหวัดราชบุรี ซึ่งเป็นอาจารย์ของหลวงปู่คง วัดบางกะพ้อม ยอดพระเกจิของ จังหวัดสมุทรสงคราม หลวงปู่ทั้ง 3 องค์นี้มักไปมาหาสู่กันเป็นประจำ บางทีเจอปัญหาหนักท่านก็ช่วยกันแก้ไข พระคุณเจ้าเมื่อสมัยก่อนเมื่อพบกันจะถามภูมิธรรมภูมิสมาธิและทดลองวิชาความขลังกันอยู่เสมอ พระสมัยเก่าแม้ไม่โด่งดังแต่ก็มีความศักดิ์สิทธิ์เกือบเท่าๆ กัน หลวงปู่ทั้ง 3 องค์นี้ก็เหมือนกัน มีอยู่คราวหนึ่งหลวงปู่แจ้งท่านได้ข้ามไปเยี่ยมหลวงปู่นวมที่วัดแจ้งเจริญ ท่านทั้งสองได้นั่งสนทนาปัญหาธรรมและภูมิสมาธิ ก็มีชายคนหนึ่งแบกปืนผ่านศาลาที่ท่านทั้งสองนั่งอยู่ หลวงปู่นวมท่านก็ร้องว่า “จะมายิงนกในวัดฉันรึ” ชายคนถือปืนก็นั่งลงพร้อมทั้งกราบท่านทั้งสองแล้วบอกว่าไม่ได้ พูดเสร็จท่านก็เดินไปที่ต้นไม้ ยืนภาวนาอยู่สักครู่ท่านจึงเดินกลับมาที่ศาลาตามเดิมพร้อมทั้งสั่งให้คนที่ถือปืนยิงไปที่ต้นไม้ต้นนั้น ชาวบ้านผู้นั้นเมื่อหลวงปู่สั่งให้ยิงก็ยิงเลย สมัยก่อนเป็นปืนลูกซองต้องขึ้นลำก่อน พอยิงออกไปสับเท่าไรก็ยิงไม่ออก หลวงปู่แจ้งท่านพูดขึ้นว่า “ ต้องเดินออกไปให้เสียเวลาทำไม เอ้า...ลองยิงต้นไม้ของฉันบ้าง ” ท่านก็ชี้ไปที่ต้นสนพร้อมทั้งเพ่งกระแสจิตไป ชาวบ้านผู้นั้นก็หันกระบอกปืนไปที่ต้นนั้นพร้อมกับลั่นกระสุนก็ยิงไม่ออกเช่นกัน หลวงปู่นวมหัวเราะชอบใจพูดว่า “ เขาก็แน่ดีเหมือนกันโว้ย ” อีกคราวหนึ่งพระท่านไปสวดอภิธรรมหมดวัด เหลือท่านอยู่กับลูกศิษย์ ท่านจึงให้ลูกศิษย์นำผ้าอาบน้ำฝนมาและสั่งให้ช่วยกันฉีก ใครมีแรงมากเท่าใดก็ให้ดึงฉีกออก เด็กวัดต่างคนต่างดึง ต่างคนต่างฉีกเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อย หลวงปู่ก็ให้นำมากองรวมกันให้ดู ท่านก็หยิบมาวางในมือบริกรรมพระคาถาเป่าไปที่กองเศษผ้านั้น สักครู่หนึ่งท่านก็หยิบผ้าขึ้นสะบัดผ้านั้นก็ติดกลับเป็นผืนเดียวกันดังเดิมอย่างมหัศจรรย์ หลวงปู่ท่านก็ให้ลูกศิษย์ดึงผ้าเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อยใหม่ปรากฏว่าดึงเท่าไรก็ดึงไม่ออก จนเหนื่อยแรงต้องยอมแพ้ท่าน กับอีกครั้งหนึ่งหลวงปู่แจ้งท่านมีกิจถูกนิมนต์ไปทางเรือ ท่านก็ให้ลูกศิษย์พายหัวพายท้าย หลวงปู่ท่านได้ทำตะบันหมากตกน้ำซึ่งที่ตรงนั้นเป็นแม่น้ำใหญ่ ท่านไม่ยอมให้ลูกศิษย์ลงงมเพราะเกรงจะเป็นอันตราย แต่ท่านได้เอาปูนแดงคาดไว้ตรงกับที่ตะบันหมากตก ซึ่งที่ตรงนั้นเป็นแม่น้ำใหญ่ พอกลับถึงวัดตรงท่าน้ำหน้าวัด ท่านจึงค่อยสั่งให้ลูกศิษย์โดดลงงม หลวงปู่บอกว่ามันตกตรงนี้ แล้วท่านก็ชี้ลงตรงที่ท่านคาดปูนไว้ ผลปรากฏว่างมได้ตะบันหมากจริงๆ นับว่าวิชาของท่านขลังและศักดิสิทธิ์มาก หลวงปู่แจ้งท่านเคยได้รับอาราธนาเข้าไปในวังอยู่ครั้งหนึ่ง เล่าว่าท่านได้เดินเงอะๆงะๆ เข้าไปถึงที่ประตูวัง ประกอบกับท่านคงห่มจีวรเก่าๆ ทำให้ทหารยามที่ยืนเฝ้าปากประตูไม่ยอมให้ท่านเข้า ท่านก็บอกว่าในหลวงนิมนต์มาท่านจะเข้าไปสวดมนต์ ท่านว่าในหลวงนิมนต์ฉันมาฉันจะเข้าไปสวดมนต์ ดูสิฉันยังเตรียมพัดมาด้วยเลย พร้อมทั้งเปิดพัดให้ดูทหารยามถึงกับตกตะลึง เพราะตาลปัตรที่หลวงปู่ถือไม่ใช่พัดธรรมดา เป็นตาลปัตรมีตราประจำพระองค์ (พัดปักดิ้นทองตราพระนารายณ์ทรงครุฑ) ทหารยามคนนั้นจึงต้องรีบนำหลวงปู่ไปส่งถึงด้านใน เมื่อไปถึงหลวงปู่ท่านนึกว่าท่านเป็นพระผู้น้อย ท่านจึงขึ้นนั่งบนอาสนะหลังสุด ประกอบกับท่านไปถึงก่อนสังฆการีเห็นเข้าก็กราบบังคมทูลสมเด็จพระพุทธเจ้าหลวงว่าหลวงพ่อวัดประดู่มาแล้ว พระองค์ก็ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯให้หลวงปู่ขึ้นไปนั่งอันดับสองรองจากสมเด็จพระสังฆราช แต่นั่งหน้าสมเด็จพระราชาคณะระดับท่านเจ้าคุณหลายรูปด้วยกัน หลวงพ่อแจ้งท่านเป็นเจ้าอาวาส องค์ที่ 4 มรณภาพประมาณปี 2465-2472
ราคาปัจจุบัน
โชว์
จำนวนผู้เข้าชม
3216 ครั้ง
สถานะ
ยังอยู่
โดย
watcell
ชื่อร้าน
ยังไม่เปิดร้านค้า
URL
-
เบอร์โทรศัพท์
0990871177
ID LINE
0831977807 (ค้นหาจากหมายเลขโทรศัพท์)
บัญชีธนาคารยืนยันตัวตน
1. ธนาคารกสิกรไทย / 865-2-10856-4
กำลังโหลดข้อมูล
หน้าแรกลงพระฟรี